ชนิดของกาแฟ
1. กาแฟดำ
ชงด้วยวิธีการหยดน้ำ อาจเป็นแบบให้น้ำซึมหรือแบบเฟรนช์เพรส
เสิร์ฟโดยไม่ใส่นม อาจเติมน้ำตาลได้ ผู้คนมักเข้าใจผิดว่ากาแฟดำกับเอสเพรสโซเป็นอย่างเดียวกัน
แต่ที่จริงแล้วกาแฟทั้งสองชนิดมีข้อแตกต่างกันหลายข้อ ข้อที่สำคัญคือ
ถ้วยเสิร์ฟของเอสเพรสโซมีขนาดเล็กกว่า เพราะนิยมดื่มให้หมดในอึกเดียว
2.เอสเพรสโซ (espresso)
3.คาปูชิโน (cappuccino)
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี คาปูชิโนมีส่วนประกอบหลักคือ เอสเพรสโซ และ นมสตีม (นมร้อนผ่านไอน้ำ) ที่ลอยอยู่ด้านบน นอกจากนั้นอาจโรยหน้าด้วยผงซินนามอน หรือผงโกโก้เล็กน้อยตามความชอบ
4. ลาเต้ (Latte)
เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า นม ส่วนในประเทศอื่นจะหมายถึง กาแฟลาเต้ หรือเครื่องดื่มกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อน และจะหยอดโฟมนมหนาประมาณ 1 ซม. ทับข้างบน หรือแต่งผด้วยฟองนมเป็นรูปต่างๆ
5.มอคค่า (Mocha)
กาแฟมอคค่าเป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่ง ซึ่งปลูกอยู่บริเวณท่าเรือมอคค่าในประเทศเยเมน กาแฟมอคค่ามีสีและกลิ่นคล้ายช็อคโกแลต อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้กาแฟมอคค่าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
6. อเมริกาโน
วิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเพรสโซการเจือจางเอสเพรสโซซึ่งเป็นกาแฟเข้มข้นด้วยน้ำร้อน ทำให้อเมริกาโนมีความแก่พอ ๆ กับกาแฟธรรมดา แต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มอันมาจากเอสเพรสโซอเมริกาโนเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำ แต่ไม่แก่
2.เอสเพรสโซ (espresso)
เป็นกาแฟที่มีรสแก่และเข้ม วิธีการชงแบบใช้แรงอัด ทำให้เอสเพรสโซมีรสชาติกาแฟซึ่งเข้มข้นและหนักแน่น
ต่างจากกาแฟทั่วๆ ไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด และเพราะรสชาติเข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง
ทำให้คอกาแฟที่ดื่มเอสเพรสโซจะไม่ปรุงกาแฟด้วยน้ำตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นชอต
3.คาปูชิโน (cappuccino)
มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี คาปูชิโนมีส่วนประกอบหลักคือ เอสเพรสโซ และ นมสตีม (นมร้อนผ่านไอน้ำ) ที่ลอยอยู่ด้านบน นอกจากนั้นอาจโรยหน้าด้วยผงซินนามอน หรือผงโกโก้เล็กน้อยตามความชอบ
4. ลาเต้ (Latte)
เป็นภาษาอิตาลีแปลว่า นม ส่วนในประเทศอื่นจะหมายถึง กาแฟลาเต้ หรือเครื่องดื่มกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อน และจะหยอดโฟมนมหนาประมาณ 1 ซม. ทับข้างบน หรือแต่งผด้วยฟองนมเป็นรูปต่างๆ
5.มอคค่า (Mocha)
กาแฟมอคค่าเป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่ง ซึ่งปลูกอยู่บริเวณท่าเรือมอคค่าในประเทศเยเมน กาแฟมอคค่ามีสีและกลิ่นคล้ายช็อคโกแลต อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้กาแฟมอคค่าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
6. อเมริกาโน
วิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเพรสโซการเจือจางเอสเพรสโซซึ่งเป็นกาแฟเข้มข้นด้วยน้ำร้อน ทำให้อเมริกาโนมีความแก่พอ ๆ กับกาแฟธรรมดา แต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มอันมาจากเอสเพรสโซอเมริกาโนเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำ แต่ไม่แก่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น